Review : Razer Megalodon

กระทู้สนทนา
Review : Razer Megalodon


    นอกจากเมาส์ คียบอร์ด การ์ดจอ อินเตอร์เนต (หรืออะไรต่อมิอะไรที่เหล่าเกมเมอร์จะนำมาอ้างได้) จะสำคัญยิ่งต่อการนำชัยชนะมาสู่เกมเมอร์คนนั้นๆ แล้ว ระบบเสียงก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ในยุคที่เกมแต่ละเกมสรรค์สร้างระบบจำลองเสียงรอบทิศทางเพื่อนำประสบการณ์อันตื่นเต้นท้าทายมาสู่ผู้เล่นและมีผลเกี่ยวเนื่องกับเกมเพลย์ของเกมแต่ละเกมโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมชูตติ้งแบบ FPS ที่เน้นไปที่ระบบเสียงสมจริงรอบทิศทาง คงยากที่จะหาเกมเมอร์มือโปรคนไหนนั่งเปิดลำโพง 2.1 และเพ่งสมาธิแยกแยะว่าเสียงย่ำเท้าและระเบิดมือที่ขว้างมานั้นมาจากข้างไหนกันแน่หลงเหลืออยู่อีก


    เกริ่นมาถึงขนาดนั้น คงเดากันไม่ยากครับว่าอุปกรณ์ที่ผมจำนำมาเสนอวันนี้คือหูฟังเกมมิ่งสำหรับฮาร์ดคอร์เกมเมอร์เป็นแน่แท้ ซึ่งเจ้าหูฟังตัวที่ว่าก็คือหูฟังแบบ Full Size ที่มีจุดเด่นอยู่ที่อินเตอร์เฟสเชื่อมต่อแบบ USB 2.0 และเพิ่มอุปกรณ์ติดพ่วง Maelstrom ที่เปรียบเสมือนตัวควบคุมการทำงานและซาวด์การ์ดแบบแยก พ่วงด้วยเสียงรอบทิศทางแบบ 7.1 ชื่อของหูฟังรุ่นนี้ก็คือ Razer Megalodon (+Maelstrom) (แปลเป็นไทยแบบง่ายๆ ได้ว่าหูฟังฉลามบุก...)

ภาพ : กล่องใหญ่มากกก


    
UnBoxing


    แพคเกจของ Razer Megalodon ดูยิ่งใหญ่สมชื่อฉลามยักษ์จริงๆ (ตามรูป) เมื่อเปิดกล้องขึ้นมาคุณก็จะพบกับเจ้าหุฟังฉลามบุก ที่มีความละม้ายคล้ายกับรุ่นน้องของมัน Razer Carcharias ที่ออกมาก่อนหน้า แต่รูปลักษณ์ของ Megalodon จะดูบึกบึนและทรงพลังกว่ามาก

ภาพ : แท่นวางไม่รวมอยู่ในเเพคเกจจำหน่ายนะขอรับ



Design


    ด้วยรูปทรงที่โค้งมนและมีหลากหลายมิติดังนั้นผมจึงขอยกเลิกการวัดขนาดรูปทรงเหมือนที่ผมทำเป็นประจำในทุกรีวิว และจะเน้นไปที่การถ่ายรูปแบบใกล้ชิดให้แทนนะครับ  
     Razer Megalodon มีรูปร่างที่ดูดีทีเดียว ตัวหูฟังนั้นใช้สีดำสนิทในทุกๆ ส่วนประกอบ คุณภาพการประกอบของ  Razer Megalodon อยู่ในเกณฑ์ดีสมราคาค่างวดของมัน


    ขนาดของหูฟังแต่ละข้างค่อนข้างใหญ่พอที่จะครอบหูคนได้ทุกไซส์ วัสดุที่ใช้หุ้มจะทำมาจากกำมะหยี่เนื้อดี (ในรูปขนแมวติดเยอะไปนิดต้องขออภัยครับ)   และสามารถปรับความสั้น-ยาวของหุฟังได้ด้วยที่ยึดดังรูป


    แท่นวางที่เข้าเซตกันกับอุปกรณ์ทั้งหมด (ไม่มีในเพคเกจที่ใช้จำหน่ายนะครับ)

ภาพ : เตรียมทดสอบกับหนังบลูเรย์


    ตามคำโฆษณาและข้อมูลที่ผมได้พบเจอมาในเว็บไซต์หลากหลายเว็บไซต์ พบว่าเทคโนโลยีจำลองเสียง 7.1 ช่องของเจ้า Maelstrom นี้มีจุดกำเนิดมาตั้งแต่ช่วงยุค 1980 แต่ด้วยเทคโนโลยีด้านการคำนวนและฮาร์ดแวร์ในสมัยนั้นที่ไม่สามารถรองรับได้จึงไม่มีการพัฒนาต่อ โดยเทคโนโลยีที่ว่านี้ใช้การคำนวนทิศทางของเสียงในอุปกรณ์แต่ละชิ้นให้เหมาะสมกับตำแหน่งรับรู้ในประสาทหูของมนุษย์ในแต่ละย่านเพื่อจำลองบรรยากาศเสียงรอบตัวให้มีความสมจริงใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่สุด โดยไม่จำกัดอยู่แค่ทิศทางซ้าย-ขวาของเสียงเท่านั้น และการคำนวนทิศทางของช่องเสียงดังกล่าวจำเป็นจะต้องใช้แรง CPU คำนวนค่อนข้างมากดังนั้น Razer จึงสร้างตัวควบคุมและประมวลผลแยกออกมาต่างหาก (เห็นในสเปคเค้าว่ามันเป็น Sound Card ในตัวด้วยนะครับ) เพื่อให้การเล่นเกมหรือดูหนังแบบ Full HD ที่ต้องใช้ทรัพยากรเครื่องสูงไม่มีภาระเพิ่มในการประมวลผลเสียงอีกต่อไป (พร้อมกันนั้น Razer ยังโอ่ทับว่า Maelstrom มีประสิทธิภาพการให้เสียงมากกว่า Sound Card เจ้าอื่นถึง 400 เปอร์เซ็นต์ )

ภาพ : ใช้การควบคุมคล้ายๆ คลิ๊กวีลของไอพอด


    อย่างที่ผมบอกไปเมื่อเราเสียบสาย USB ของเจ้า  Megalodon เข้ากับระบบของเราแล้วการควบคุมที่เหลือนั้นจะต้องทำผ่าน Maelstrom ทั้งสิ้น การควบคุม  Maelstrom (Megalodon) ก็สามารถทำความเข้าใจได้ง่าย เริ่มจากการใช้งานปุ่ม 3 ปุ่มล่างนั้นจะเป็นการใช้งานเกี่ยวกับไมค์ทั้งสิ้น (ตามรูป)

ภาพ : ควบคุมไมค์ด้วย 3 ปุ่มล่าง


    จุดควบคุมสำคัญจะอยุ่ที่ปุ่มด้านบนสุดที่มีคำว่า Maelstrom แปะอยู่ โดยจะใช้งานร่วมกับปุ่มกดตรงกลางที่มีโลโก้ Razer และปลุ่มวงกลมที่ใช้ลด-เพิ่มเสียง ปุ่ม Maelstrom จะทำการสลับโหลดการนำเสียงระหว่างโหมด 2.0 กับโหมด 7.1 ทันทีที่กด และปุ่มกลางที่มีโลโก้ Razer นั้น จะใช้เป็นตัวกำหนดค่าเสียงต่างเช่นเปิดโหมดการเพิ่มเบส และกำหนดทิศทางของเสียงจำลองในโหมดเสียง 7.1 เป็นต้น

ภาพ : เลือก 2.0 หรือ 7.1 ด้วยปุ่มหลัก



Testing


     Razer Megalodon ถูกสร้างขึ้นมาด้วยด้วยเหตุผลทางด้านการเล่นเกม ดังนั้นการทดสอบอย่างแรกของผมกับเจ้า  Razer Megalodon จึงมุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์สียงที่ได้รับในการเล่นเกมก่อนเป็นอันดับแรกและหลังจากทอดสายตาหาเกมที่สามารถใช้ได้ทั้งไมค์โครโฟนในการพูดคุยละหว่างการเล่นและรองรับกับระบบช่องเสียง 7.1 คงไม่มีเกมไหนเหมาะสมที่สุดไปกว่าสุดยอดเกมมัลติเพลยเยอร์ที่สามารถทำให้เพื่อนร่วมทีมด่ากันได้มันส์ที่สุดในขณะนี้ Left4Dead (L4D)

ภาพ : ใครๆ ก็อยากเป็น Zoey =D


    จากประสบการณ์ฝ่าดงซอมบี้และเฟรนด์ลีไฟรส์ ฟีเจอร์จำลองเสียง 7.1 รอบตัวนั้นใช้ได้จริง มันสามารถสร้างประสบการณ์เสียงรอบด้านสมจริงให้กับผมได้อย่างระทึกขวัญ ด้วยการะบุตำแหน่งของสิ่งต่างๆ รอบตัวทั้งฝูงซอมบี้ธรรมดา และซอมบี้แบบพิเศษ (โดยเฉพาะอย่างยิง Witch สาวฮอตของเกม) ได้อย่างชัดเจนกว่าหูฟังชนิดอื่นๆ ที่เคยได้ใช้มา และนั่นรวมไปถึงเสียงบรรยากาศโดยรอบและเสียงกระสุนเพื่อนที่เฉี่ยวหัวไปมาที่ะมีทิศทางของต้นกำเนิดที่ชัดเจนและสมจริง (โคตรๆ ) ด้วย


     อีกทั้งการสื่อสารด้วยไมค์ที่ติดมาก็ทำได้ดีเยี่ยม เสียงดังฟังชัดและยังสามารถปรับการตั้งค่าต่างๆ ได้ทันทีผ่าน Maelstrom อีกด้วย (เยี่ยมจริงๆ ) ถ้าหากตัดเรื่องราคาออกไปไม่พิจารณาเล้วล่ะก็ Razer Megalodon  จะได้คะแนนเต็ม 10 ไปจากทันทีในเรื่องของหูฟัง+ไมค์ที่ใช้สำหรับการเล่นเกม

ภาพ : ภาค 2 จะออกเดือนพฤศจินี้เเล้วนะครับ


    การทดสอบที่สองด้วยการใช้ Razer Megalodon ในการดูหนังฟังเพลงจากเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คเพื่อการนี้โดยเฉพาะอย่าง VAIO FW46 ด้วยการดูหนังผ่านไดรฟ์บลูเรย์และฟังเพลงผ่านโปรแกรม Sonic Stage และประชันกับหูฟังตัวโปรดของผม XB-700 จากการทดสอบในเรื่องของการดูหนังฟังเพลงโดยแบ่งออกเป็น 2 ยก

ภาพ : DVD คอนเสิร์ต Michael Buble : Meets Madison Square Garden


    และยกต่อมาในการเปิดฟังเพลงหลากหลายแนวผ่านโปรแกรม Sonic Stage บน VAIO เครื่องเดิมด้วย Maelstrom  ที่ติดตั้ง Sound Card แบบภายในมาทำให้เสียงเพลงที่ได้ในเกือบทุกๆ แนว Razer Megalodon จะให้เสียงที่ใส นุ่มนวลและรายละเอียดที่มากกว่า แต่ในเพลงประเภทร๊อคหนักๆ หรือเพลงที่ใช้เบสตู้มๆ XB-700 ชนะขาดได้ใจขาร๊อคไปอย่างเต็มๆ แม้ผมจะเปิดฟังค์ชั่น Bass Boost ใน Maelstrom แล้วก็ตาม

ภาพ : Razer Megalodon VS Sony XB-700



Conclusion


     Razer Megalodon ได้ใจผมไปเต็มๆ ระหว่างการทดสอบโดยเฉพาะอย่างยิ่งการทดสอบที่ใช้กับการเล่นเกม ในเรื่องของการดูหนังฟังเพลง Sound Card build-in ที่มีอยู่ในMaelstrom ก็เพิ่มมิตเสียงได้ดีกว่าระบบเสียงแบบออนบอร์ดมากมายจนสามารถสัมผัสได้ (ยกเว้นเสียงเบสอย่างที่ผมบอก) ด้วยเหตุนี้ผมจึงอยากย้ำเตือนข้อความเดิมข้างต้นของผมว่า ถ้าหากไม่นำเรื่องราคามาคิด  Razer Megalodon (+Maelstrom) จะได้คะแนนจากผมไปเต็ม10 เลยครับ (หากนับราคาเอาไป 7/10 ครับ....)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่